nintendo switch nelke & the legendary alchemists ateliers of the new world ( english zone 1 )
ถือเป็นอะไรที่อัศจรรย์มากสำหรับซีรีส์ Atelier ที่เรารู้ตัวอีกที ซีรีส์นี้ก็มีอายุมากว่า 20 ปีแล้ว โดยเรื่องราวในซีรีส์เกมนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับยุคสมัยที่น่าติดตาม และมีอะไรมากกว่าการเอาชนะอธรรม หรือการช่วยเหลือโลก ซึ่ง Nelke & the Legendary Alchemists: Ateliers of the New World คือเกมภาคแยกย่อยของซีรีส์ที่ออกมาเพื่อฉลองการครบรอบ 20 ปีของซีรีส์เกม เราจะได้รับบทเป็นตัวเอกนาม Nelke von Lestamm ข้าราชการชั้นสูงที่ถูกส่งไปยังหมู่บ้านเล็กๆ ของ Westbald เพื่อพัฒนาที่แห่งนี้ให้กลายเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าที่เจริญรุ่งเรือง โดยสิ่งที่ทำให้เกมภาคนี้ แตกต่างจากเกมภาคอื่นในซีรีส์ Atelier คือเรา หรือ Nelke ไม่มีความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุเลย และนั่นหมายความว่าเราจะไม่ได้เล่นเกมภาคนี้เหมือนกับ Atelier ภาคอื่นๆ ทีเราจะเอาเวลาส่วนมากไปกับกับการต้มยา หรือสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ แต่มันจะเปลี่ยนมาเป็นการสร้างเมือง และโฟกัสไปกับการบริหารจัดการทรัพยากรณ์ เพื่อขยายเมืองเป็นหลักแทน !!
รีวิว Nelke & the Legendary Alchemists: Ateliers of the New World
แม้ว่าตัวเอกเราจะใช้พลังเล่นแร่แปรธาตุไม่ได้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีระบบเล่นแร่แปรธาตุ เราจะได้พบกับนักเล่นแร่แปรธาตุตัวเอกจากภาคก่อนๆ ทั้งหมด รวมไปถึงเหล่าตัวละครที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาดีๆ จากภาคอื่นๆ อีกมากมาย ในแง่ของเกมเพลย์ ตัวเกมจะแบ่งเวลาออกเป็น 2 ช่วงอย่างชัดเจน คือวันทำงาน และวันหยุด โดยในวันทำงาน Nelke จะบริหารจัดการเมือง ให้ตัวเมืองพัฒนา และเติบโตไปอย่างรวดเร็วเท่าที่ทำได้ ตัวเกมจะเริ่มต้นจากความเรียบง่าย และเมื่อเมืองของเราใหญ่โตขึ้น ระบบต่างๆ ก็จะเยอะขึ้น ผู้คนก็จะมากขึ้น ความซับซ้อนในการจัดการก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย และนอกจากนี้เราจะต้องออกเก็บรวบรวมวัตถุดิบ โดยการส่งตัวละครออกไปเพื่อสำรวจพื้นที่ต่างๆ หรือทำการเกษตรบนพื้นที่ต่างๆ จากนั้นเราจึงจะใช้นักเล่นแร่แปรธาตุทำการสร้างสินค้าเพื่อมาวางขายต่อไป มันคือสมดุลของตัวเกม ที่เราจำเป็นต้องมีวัตถุดิบและเงินอย่างพอเพียงในการพัฒนาเมืองให้ก้าวไปข้างหน้าต่อ อย่างไรก็ตามมันไม่ง่ายเลย เพราเราจำเป็นต้องใช้เวลาในการเล่นจำนวนมาก และพบเจออุปสรรคหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น การใช้วัตถุดิบไปโดยไม่ตั้งใจบ้าง ร้านของหมดบ้าง หรือนักเล่นแร่แปรธาตุไม่สามารถทำอะไรได้บ้าง เป็นต้น
รีวิว Nelke & the Legendary Alchemists: Ateliers of the New World
ลูปการเล่นของตัวเกมค่อนข้างน่าติดตาม หลังจากการทำงาน เราะจะได้รับบัตรคะแนน เพื่อดูว่าเมืองของเราพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ข้อมูลเหล่านี้สำคัญมาก เพื่อให้เราได้รู้ว่าควรทำสิ่งใดต่อไป ตัวเกมยังมีรูปแบบการเล่นที่ทำให้ประชาชนนิยมชมชอบเรา มีหลายอย่างที่ให้เราได้โฟกัส แม้ว่าตอนแรกมันจะมีเยอะไปเสียหน่อย ช่วงหลังเราจะสามารถโฟกัสมันได้เองอย่างแน่นอน และเหมือนกับ Atelier ในภาคก่อนๆ เราจะได้รับภารกิจ ที่มีเวลาเป็นข้อจำกัด เช่น เพิ่มจำนวนประชากร หรือหาเงินให้ได้ตามจำนวนที่ระบบต้องการ ไม่ต้องห่วงเวลาที่กำหนดมา มันไม่ได้บีบจนเรารู้สึกว่ามันยากจนเกินไป อีกทั้งมันยังถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ตัวเกมใช้สอนการเล่นเราไปตามลำดับเสียมากกว่า สำหรับวันหยุด เราจะสามารถพา Nelke ไปหาเพื่อนใหม่ๆ และทำความรู้จักกับเหล่าผู้คนให้มากขึ้นได้ มันมีเหตุการณ์เล็กๆ ตามช่วงเวลาจัดเตรียมเอาไว้ให้เราได้เล่น แต่เรามีเวลาจำกัดในการทำสิ่งต่างๆ ทุกกิจกรรมใช้เวลาว่างที่มี ดังนั้นหากเราใช้เวลาอยู่แต่ในเมือง เราก็จะไม่มีเวลาออกไปสำรวจนอกเมือง
รีวิว Nelke & the Legendary Alchemists: Ateliers of the New World
ระบบสำรวจในเกมเกมนี้ทำออกมาค่อนข้างง่าย เราเพียงเลือกว่าจะไปสำรวจที่ไหน และพาตัวละครไหนไปด้วยเท่านั้น แต่ปาร์ตี้ของเราจะเดินไปเองโดยอัตโนมัติ จนกว่าเราจะไปถึงจุดสิ้นสุดของพื้นที่ หรือหมดเวลาว่างของเราแล้ว นั่นทำให้เกมเกมนี้มีความน่าเสียดาย ตรงที่เราจะไม่ได้เดินสำรวจไปรอบๆ ด้วยตัวของเราเองอย่างอิสระ สำหรับด้านระบบการต่อสู้ภายในเกมจะใช้ระบบต่อสู้สไตล์ turn based เป็นหลัก ซึ่งทุกครั้งที่เราจะโจมตี เราจะได้รับคะแนน เพื่อสั่งใช้สกิลต่างๆ มันไม่ใช่ระบบที่ยากเกินความเข้าใจ และไม่ใช่รูปแบบการเล่นที่ซ้ำซาก เพราะส่วนใหญ่มันจะจบลงอย่างรวดเร็ว และค่อนข้างสั้น
รีวิว Nelke & the Legendary Alchemists: Ateliers of the New World
กล่าวได้ว่า Atelier ภาคนี้เป็นภาคที่ดูดีที่สุดในปัจจุบัน ตัวละครโมเดล 3D ทำออกมาได้มีชีวิตชีวามากๆ และงานอาร์ต 2D ก็ทำออกมาได้อย่างงดงาม จริงๆ แล้วตัวเกมค่อนข้างน่าประทับใจ ที่ได้ทำการหยิบตัวละครของแต่ละภาคมารวมกันได้ และทำให้เราเชื่ออีกด้วยว่าตัวละครทุกตัวอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน Nelke & the Legendary Alchemist เป็นเกมเฉลิมฉลองการครบรอบ 20 ปีของซีรีส์ Atelier ที่ยอดเยี่ยม มันนำเสนอสิ่งใหม่ที่แตกต่างออกไป ในขณะที่องค์ประกอบด้าน RPG ต่างๆ ดูกระชับขึ้น ด้านการเมืองค่อนข้างน่าดึงดูด และให้ความสนุกในรูปแบบที่เรียบง่ายแก่เราได้อย่างดีเยี่ยม มันยังเต็มไปด้วยบรรยากาศของเกมที่สว่างไสว และสเน่ห์ปฏิสัมพันธ์ระหว่างของแต่ละตัวละครที่น่าประทับใจอยู่เช่นเคย